วัดซอยสามัคคี หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าวัดธรรมสุขใจ รังสิต ตามชื่อเดิมนั้น ตั้งอยู่ในย่านคลองรังสิต และการเดินทางมาวัด นอกจากจะเข้าทางถนน พหลโยธินตรงสนามกอล์ฟธูปเตมีย์แล้ว ยังสามารถเข้ามาทางถนนรังสิต- นครนายกได้อีกด้วย โดยข้ามคลองรังสิต (คลอง ๑ ) ตรงสะพานแดง ก็จะมาถึงวัดได้เร็วกว่าเข้าทางถนนพหลโยธิน วัดซอยสามัคคี ตั้งอยู่เลขที่ ๑๐๑ หมู่ ๑๒ ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี มีพื้นที่ดินตั้งวัดทั้งหมด ๒๑ ไร่เศษ ด้านทิศเหนือติดกับ เทศบาลเมืองรังสิต อำเภอธัญบุรี ทิศใต้ติดต่อกับเขตดอนเมือง ทิศตะวันออก ติดกับอำเภอลำลูกกา ทิศตะวันตกติดกับตำบลหลักหก อำเภอเมืองปทุมธานี เดิมบริเวณที่ตั้งวัดเป็นพื้นที่ทำนาข้าวเกษตรกรรมnตามประวัติเดิม ได้สร้างเป็น ศูนย์วิปัสสนาธรรมสุขใจ โดยมีคณะศรัทธา ประกอบด้วย หลวงพ่อพระครูใบฎีกา เชียงปัญญาวุฒโท(น้อยไม้) อุบาสิกาถม น้อยไม้ คุณพ่อพุฒ คุณแม่ผ่อน พ่วงเจริญ นายเพ่ง นางลำพวน น้อยไม้ นางชะม้อย น้อยไม้นายผาด นางสมหมาย น้อยไม้ จ.ส.อ.ณรงค์ นางละเมียด ศิลาม่อม พร้อมด้วยศรัทธาประชาชน ในเขตตำบลคูคต อำเภอลำลูกกาได้มี จิตศรัทธาน้อมถวายที่ดิน จำนวน ๑๙ ไร่ ๓ งาน ๖๔ ตารางวา ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของ นายผาด นางสมหมาย น้อยไม้
ได้จดทะเบียนถวายที่ดิน เป็นทางการ เมื่อวันที่ ๑๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๓๑ แก่ท่านพระมหาประเสริฐ กิตฺติเสฎโฐ ปัจจุบัน (พระสมุหวรคณิสสรสิทธิการ) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวง วัดพระเชตุ (วัดโพธิ์) ท่าเตียน เจ้าของรายการธรรมสุขใจ ทางสถานีวิทยุกรมการรักษาดินแดน
ได้ทำพิธีถวายที่ดิน เมื่อวันที่ ๘ เมษายน ๒๕๒๖ ปัจจุบัน นางสมหมาย น้อยไม้ ซึ่งเป็นผู้จัดการมรดก ของนาย นายผาด น้อยไม้ ร่วมกับสาธุชนพุทธบริษัท ร่วมกันอุทิศถวายเพิ่มอีก ๑ ไร่ ๗๑ ตารางวา ทำให้วัดมี พื้นทั้งหมด ๒๑ ไร่เศษ ซึ่งทางวัดจะได้ดำเนินการขอพระราชทานเครื่องราชอิศริยาภรณ์ ให้กับสาธุชนพุทธบริษัท ดังกล่าวต่อไป พ.ศ. ๒๕๓๐ ได้รับใบประกาศตั้งวัด เมื่อวันที่ ๒๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๐ ชื่อว่า “วัดซอยสามัคคี”
โดยมีท่านพระมหาประเสริฐ กิตติเสฎโฐ เป็นผู้รักษาการเจ้า อาวาส พ.ศ. ๒๕๓๓ คณะสงฆ์จังหวัดปทุมธานี ได้แต่งตั้งให้พระครูใบฎีกาสมนึก เตชธมฺโม เป็นเจ้าอาวาส (พระครูพิศาลธรรมานุวัตรจนถึงปัจจุบัน พ.ศ. ๒๕๔๙ ได้รับแต่งตั้ง ให้เป็นสำนักปฎิบัติธรรมประจำจังหวัดปทุมธานี แห่งที่ ๘ ตามมติ มหาเถรสมาคม ครั้งที่ที่ ๓๐ มิถุนายน
การก่อสร้างถาวรวัตถุวัดนี้ได้ดำเนินการก่อสร้าง และปฎิสังขรณ์เสนาสนะในวัดไปแล้วคือพ.ศ. ๒๕๒๗ สร้างกุฎิสงฆ์ จำนวน ๓๐ หลัง เป็นอาคารครึ่งตึกครึ่งไม้จำนวน ๑๖ หลังเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กจำนวน ๑๔ หลัง พ.ศ.๒๕๒๗ สร้างศาลาการเปรียญ (ศาลาปฎิบัติธรรม)กว้าง ๑๘ เมตรยาว ๓๐ เมตรเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก พ.ศ. ๒๕๒๙ สร้างอุโบสถ-ศาลา เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก โดยชั้นบนเป็นโรงอุโบสถ กว้าง ๗.๕ เมตร ยาว ๒๔ เมตร ชั้นล่างเป็นศาลาอเนกประสงค์ กว้าง ๓๐ เมตร ยาว ๓๘ เมตร พ.ศ. ๒๕๓๓ สร้างฌาปนสถาน (เมรุเผาศพ) ๑ หลัง ปัจจุบัน บูรณะเป็นแบบปลอดมลภาวะ ศาลาบำเพ็ญกุศลศพ กว้าง๘ เมตร ยาว ๑๖ เมตร เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ๒ หลัง สร้างหอพระไตรปิฎก เป็นอาคารทรงไทย ครึ่ง ตึกครึ่งไม้ ๒ ชั้น กว้าง๔ วา ยาว ๘ พ.ศ. ๒๕๕๐ สร้างศาลาปฎิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นอาคารไทยประยุกต์ ชั้นเดียว คอนกรีตเสริมเหล็ก กว้าง ๑๒ เมตร ยาว ๓๕ เมตร
จำนวนพระภิกษุสามเณร แม่ชี และศิษย์วัด ปัจจุบันมีพระภิกษุ
๓๕ รูป สามเณร ๒ รูป แม่ชี ๒๑
ศิษย์วัด ๖ คน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น