ปทุมธานี

ปทุมธานีเดิมชื่อ "เมืองสามโคก" เป็นเมืองที่ตั้งมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ในแผ่นดินของสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง เมื่อปี พ.ศ. 2175 มาในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ได้โปรดเกล้าฯ ให้ครอบครัวมอญที่ถูกอพยพต้อนมาจากเมืองเมาะตะมะ ไปทำมาหากินที่บ้านสามโคกนี้ใกล้กับวัดสิงห์ เขตอำเภอสามโคกในปัจจุบันยังมีโคกดินโบราณสำหรับเผาโอ่งอ่างของชาวมอญในสมัยโบราณเหลืออยู่ 2 แห่ง การอพยพชาวมอญ มาอยู่ที่เมืองนี้ ยังมีในสมัยของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี (พ.ศ. 2317) และพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (พ.ศ. 2358) ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยนั้น พระองค์ได้เสด็จประพาสเมืองสามโคก ได้มีพสกนิกรจำนวนมากสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ นำดอกบัวหลวงขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายอย่างเนืองแน่น จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามเมืองใหม่ เพื่อให้เป็นสิริมงคลว่า "ประทุมธานี" และต่อมาพระบาทสมเด็จ พระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเปลี่ยนการสะกดนาม จังหวัดเป็น "ปทุมธานี"





                ภูมิประเทศ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบลุ่มอันอุดมสมบูรณ์ มีแม่น้ำเจ้าพระยาไหลผ่านใจกลางจังหวัด ในเขตอำเภอเมืองและอำเภอสามโคก มีลำคลองธรรมชาติและคลองชลประทานหลายสาย เช่น คลองควาย คลองเชียงรากน้อย คลองบางเตย คลองบางโพธิ์ คลองแม่น้ำอ้อม คลองบางหลวง คลองรังสิตประยูรศักดิ์ (คลองรังสิต) คลองรพีพัฒน์ คลองหกวา ฯลฯ อาณาเขต ปทุมธานี อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ เพียง ๔๖ กม. การคมนาคมสะดวก ทั้งทางบกและทางน้ำ มีพื้นที่ทั้งหมด ๑,๕๒๕ ตารางกิโลเมตร แบ่งเขตการปกครองออกเป็น ๗ อำเภอ คือ ๑. อำเภอเมือง ๒. อำเภอลาดหลุมแก้ว ๓. อำเภอสามโคก ๔. อำเถอธัญบุร ี ๕. อำเภอ หนองเสือ ๖. อำเภอคลองหลวง ๗. อำเภอลำลูกกา ทิศเหนือ ติดกับจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจังหวัดสระบุรี ทิศใต้ ติดกับจังหวัดนนทบุรี และกรุงเทพมหานคร ทิศตะวันออก ติดกับจังหวัดนครนายก และจังหวัดฉะเชิงเทรา ทิศตะวันตก ติดกับจังหวัดนนทบุรี

ของดีเมืองปทุม งานประเพณี - เปิดสงกรานต์ เป็นประเพณีสงกรานต์ ข้าวแช่ของชาวไทยรามัญ (มอญ) มีการนำข้าวสุกแช่ลงในน้ำเย็น ลอยดอกมะลิ พร้อมกับจัดอาหารคาว หวาน จัดเป็นสำรับแล้วนำออกขบวนแห่ ไปถวายพระ และญาติผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือในวันสงกรานต์ พอตอนบ่ายก็จะมีการก่อ พระทราย และร่วมปล่อยนกปล่อยปลา นำน้ำหอมไปสรงน้ำพระ ขอพรจากพระและยกขบวนไปรดน้ำอวยพรผู้ใหญ่ ตามขนบธรรมเนียมประเพณี ที่ได้ยึดถือกระทำกันมา การเล่นสะบ้า ในโอกาสวันสงกรานต์ตอนบ่ายๆ จะมีหนุ่มสาวพบปะสมาคมกันอย่างใกล้ชิด พวกผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย จะเปิดโอกาสให้ลูกหลานของตนแต่งกายให้สวยงามเป็นพิเศษ มาชุมนุมเล่นทอยลูกสะบ้ากันสำหรับลูกสะบ้านั้น ทำจาก แก่นไม้ประดู่หรือไม้มะค่า มีลักษณะรูปทรงกลม เป็นรูปจานขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 4-5 นิ้ว การทอยลูกสะบ้า ผู้เล่นจะทอยไปยังหลัก ซึ่งอยู่ห่างจากที่ทอยประมาณ 13 วา ให้ล้มลง งานประเพณี - มอญรำ เป็นประเพณีของชาวรามัญโบราณ ตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช มีการใช้ปี่พาทย์มอญเล่น ประกอบการรำและการร้องใช้หญิงสาวจำนวน 8-12 คนขึ้นไปรำในงานพิธีมงคลจะแต่งกายชุดสดสวยของชาวมอญ ห่มสไบเฉียงเสื้อแขนยาว ทรงกระบอกคอกลม เกล้าผมมวยรัดด้วยดอกมะลิสด ทัดดอกไม้สดข้างหูและสวมกำไลที่ข้อเท้า เว้นแต่พิธีมงคลศพ จึงจะแต่งชุดซิ่นสีดำเชิงห่มสไบสีขาว ปัจจุบันการแสดงมอญรำยังนิยมใช้แสดงในงานต้อนรับแขก และงานศพของผู้มีเกียรติ งานประเพณี - ทะแยมอญ เป็นการละเล่นพื้นเมืองของหนุ่มสาวชาวมอญ มีลักษณะคล้ายหมอรำของภาคอีสาน หรือลำตัดของคนไทยภาคกลาง มีการร้องเพลงเกี้ยวพาราสีต่อปากต่อคำกัน เครื่องดนตรีที่ใช้ประกอบในการเล่น ก็มีไวโอลินและซอ ทะแยมมอญ ใช้เล่นได้ทั่วไปในทุกโอกาส ที่ต้องการความสนุกสนานครึกครื้น ไม่จำเป็นต้องเป็นงานพิธี เช่น มอญรำ งานประเพณี - การรำพาข้าวสาร เป็นประเพณีของชาวมอญ นิยมทำกันหลังจากการออกพรรษา เป็นช่วงการทอดกฐินและทอดผ้าป่า โดยคณะผู้รำพาข้าวสาร จะพายเรือไปขอรับบริจาคข้าวสาร เงินทองและสิ่งของ แล้วนำไปร่วมในการทอดกฐิน งานประเพณี - การตักบาตรพระร้อย เป็นประเพณีของชาวมอญที่ทำในเทศกาลออกพรรษา ด้วยการนำอาหารคาว-หวาน ลงเรือมาจอดเรียงรายริมฝั่งแม่น้ำ เจ้าพระยาเพื่อรอตักบาตร งานประเพณี - การจุดลูกหนู เป็นประเพณีเผาศพพระภิกษุ-สามเณร ใช้ดอกไม้เพลิงเป็นชนวน ลำตัวเจาะร้อยเชือกชนวน เมื่อจุดฉนวนไฟจะวิ่งตามฉนวน ไปยังดอกไม้เพลิง ดอกไม้เพลิงจะวิ่งไปจุดไฟที่เมรุ

 สถานที่ท่องเที่ยว ศาลหลักเมือง เป็นปูชนียสถานที่สำคัญยิ่งของจังหวัดปทุมธานี เป็นที่ประดิษฐานเจ้าพ่อหลักเมือง ซึ่งเป็นที่เคารพ สักการะของชาว จังหวัดปทุมธานี ศาลหลักเมืองนี้ตั้งอยู่บริเวณทางเข้าศาลากลางจังหวัด สร้างขึ้นเมื่อวันที่ ๓ มกราคม พ.ศ. ๒๕๒๐ เป็นศาลาแบบจตุรมุขยอดกลาง มีลักษณะคล้ายก้านดอกบัวหลวง เหนือขึ้นไปเป็นฐานกลีบบัวรองรับมณฑป ภายในมณฑปประดิษฐานหลักเมือง และมีรูปหล่อ พระนารายณ์สี่กรทรงเหนือหลังนกฮูก และพระวิษณุหล่อด้วยสัมฤทธิ์ ด้านหลังของมณฑปบรรจุพระยอดธงวัดไก่เตี้ย อีกทั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมาย ประกอบด้วยเครื่องรางของขลัง ที่รวบรวมมาจาก วัดต่างๆ ในจังหวัดปทุมธานี วัดโบสถ์ ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านกลาง ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๖๑๔ โดยชาวมอญที่อพยพมาจากเมืองหงสาวดี และเอาชื่อหมู่บ้านที่ตนอพยพมาอาศัยอยู่ ตั้งเป็นชื่อวัดและได้สร้างเสาหงส์ขึ้นไว้เป็นสัญลักษณ์แห่งเมืองหงสาวดี สิ่งสำคัญในวัดโบสถ์คือ พระแสงอาญาสิทธิ์ ของเก่าแก่จากรามัญ ช้างสี่เศียรใช้ติดตั้งประดับหัวเสา อายุเก่าแก่ถึง ๑๕๐ ปี สร้างด้วยทองคำสัมฤทธิ์ พระทรงเครื่องอยู่ในโบสถ์เก่าของวัด และที่เขี่ยบุหรี่สุนัขย่าเหลหล่อด้วยตะกั่วที่เจ้าอาวาสองค์ก่อน ได้รับพระราชทานมาจากรัชกาลที่ ๖ วัดชินวราราม เป็นวัดเก่าแก่และเป็นพระอารามหลวงชั้นโทชั้นวรวิหาร ตั้งอยู่บนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา เยื้องปากคลอง รังสิตประยูรศักดิ์ ไปทางเหนือเล็กน้อย ในเขตอำเภอเมืองฯ เดิมชื่อ "วัดมะขามใต้" มีอาณาบริเวณกว้างขวาง ในพระอุโบสถมีจิตรกรรมฝาผนังเรื่องพระเจ้าสิบชาติที่งดงาม พร้อมคำบรรยายเป็นโคลงสี่สุภาพ นอกจากนี้ ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอื่นๆเช่น พระวิหาร มณฑปหอระฆัง ศาลาการเปรียญ ศาลาท่าน้ำ และตำหนักชินวรสิริวัฒน์ ฯลฯ วัดนี้ได้รับการปฏิสังขรณ์โดยพระเจ้าวรวงศ์ เธอกรมหลวงชินวรสิริวัฒนา สมเด็จพระสังฆราชเจ้า อดีตเจ้าอาวาสราชบพิธฯ วัดชินวราราม จากทางแยกถนนสายกรุงเทพฯ- ปทุมธานี ก่อนถึงสะพานนนทบุรีประมาณ ๕๐๐ เมตร ทางฝั่งซ้ายจะมีทางแยกเข้าไป ประมาณ ๑ กม. การเดินทางสะดวกทั้งทางรถยนต์ และทางเรือ วัดสิงห์ ตั้งอยู่บนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา ในเขตอำเภอสามโคก สันนิษฐานว่าสร้างเมื่อครั้งที่ชาวมอญอพยพมาตั้งถิ่นฐานที่เมืองนี้ ในบริเวณวัดมีโบราณสถานและโบราณวัตถุที่ควรค่าแก่การศึกษา ในด้านประวัติศาสตร์และศิลปะ มีหลวงพ่อโต เป็นพระพุทธรูปลงรักปิดทอง ปางสะดุ้งมารสมัยกรุงศรีอยุธยา พระพุทธไสยาสน์ (หลวงพ่อเพชร) โกศบรรจุอัฐิหลวงพ่อพญากราย ซึ่งเป็นพระมอญธุดงค์มาจำพรรษาที่วัดสิงห์นี้ บนกุฏิจัดเป็นพิพิธภัณฑ์มีโบราณวัตถุที่เป็นศิลปะมอญ เช่นหม้อข้าวแช่ มีรอยพระพุทธบาทจำลองทำด้วยไม้สัก พร้อมทั้งแท่นบรรทมของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เมื่อครั้งเสด็จประพาส เมืองสามโคก และมีอิฐมอญแบบเก่าที่มี ๔, ๖, ๘ รู ในแถบวัดนี้ยังมีการทำอิฐมอญ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมพื้นบ้าน การเดินทางไปได้ทั้งทางเรือ และทางรถยนต์ โดยถนนสายปทุมธานี-สามโคก เพียง ๓ กม. และมีทางแยกซ้ายเข้าไปประมาณ ๒ กม. วัดเจดีย์ทอง ตั้งอยู่บนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา ตำบลคลองควาย อำเภอสามโคก ในวัดนี้มีเจดีย์ทรงรามัญ สร้างมาประมาณ ๑๖๐ ปี เป็นสถาปัตยกรรมมอญที่เลียนแบบมาจากเจดีย์จิตตะกองของพม่า และยังมีพระพุทธรูปปางมารวิชัย สร้างขึ้นด้วยหยกขาว เป็นที่ เคารพสักการะของชาวไทยรามัญ การเดินทางนั้นใช้เส้นทางสายปทุมธานี - สามโคก ห่างจากจังหวัดไป ๘ กม. แยกขวาเข้าวัดอีก ประมาณ ๕๐๐ เมตร วัดไผ่ล้อม เป็นวัดโบราณสมัยกรุงสุโขทัย ตั้งอยู่บนฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา ในเขตอำเภอสามโคก เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่อยู่ในความสนใจของนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างประเทศเป็นอย่างยิ่งเนื่องจากบริเวณวัดนั้นเป็นที่อาศัยของ "นกปากห่าง" จำนวนมาก ซึ่งเป็นนกที่อยู่ในตระกูลนกกระสา มีถิ่นกำเนิดในประเทศอินเดีย ลังกา พม่า ไทย ลาว เขมร และเวียดนาม "นกปากห่าง" เป็นนกประจำถิ่นแต่มีบางพวกที่อพยพ เปลี่ยนที่หากินไปตามฤดูกาล นกนี้จะเริ่มอพยพมาอาศัยอยู่ที่วัดไผ่ล้อม ในระหว่างเดือนพฤศจิกายน ถึงเดือนมิถุนายนของทุกปีพอเข้าฤดูฝน ประมาณเดือนมิถุนายนถึงเดือนตุลาคมนกส่วนมากจะอพยพทยอยบินขึ้นไปทางเหนือยังประเทศอินเดีย หลังจากนั้น ในเดือนพฤศจิกายน นกก็จะเริ่มบินกลับมาทำรังที่วัดไผ่ล้อมอีก อาหารที่นกปากห่างชอบคือหอยโข่ง นอกจากนี้ยังมีกุ้งและปลา ปัจจุบัน "นกปากห่าง" เป็นสัตว์ป่าสงวนในความดูแลของกองอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมป่าไม้ การเดินทางใช้เส้นทางถนนสายปทุมธานี-สามโคก เลยที่ว่าการอำเภอสามโคก ถึงวัดสามัคคิยาราม แล้วลงเรือข้ามฟาก ไปวัดไผ่ล้อม หรือจะนั่งรถสองแถวสายไปวัดไผ่ล้อม จากหัวถนนติวานนท์ (ทางหลวงหมายเลข ๓๐๖) ถึงสามแยกเลี้ยวขวา เข้าถนนหมายเลข ๓๔๖ ประมาณ ๑ กม. ทางซ้ายมือมีทางราดยางเข้าสู่วัดเสด็จ (ระยะทาง ๓.๕ กม.) และวัดไผ่ล้อมระยะทาง ๑๕ กม. ไปลงที่หน้าวัดไผ่ล้อม หรือโดยรถประจำทาง ขสมก. สาย ๓๒ และ ปอ. ๖ สาย ๑๐๔ นอกจากนี้ ยังมีบริการเรือนำเที่ยว กรุงเทพฯ วัดไผ่ล้อม -ศูนย์ศิลปาชีพ ไป-กลับ ทุกวันอาทิตย์ วัดบัวขวัญ เป็นวัดที่อยู่ในเขตอำเภอลาดหลุมแก้ว ในบริเวณวัดมีพระพุทธรูปปางพระผอม คือพระพุทธรูปปางบำเพ็ญทุกรกิริยา ซึ่งสร้างขึ้น ในสมัยรัชกาลที่ ๕ พร้อมกับพระพุทธรูปตามระเบียงวัดเบญจมบพิตร นอกจากนี้ยังมีพลับพลาที่ประทับแรกนาขวัญ ในสมัยรัชกาลที่ ๖ ที่เรียกว่า" ศาลาแดง" เดิมตั้งอยู่ที่วังพญาไท ในกรุงเทพฯ สร้างเป็นพลับพลาไม้สักทั้งหลังแม้แต่หลังคา นับเป็นพลับพลาที่สวยงาม และทรงคุณค่าทางสถาปัตยกรรมชิ้นหนึ่ง วัดเจดีย์หอย ตั้งอยู่หมู่ที่ ๔ ตำบลบ่อเงิน อำเภอลาดหลุมแก้ว ใช้ทางหลวงหมายเลข ๓๔๖(ปทุมธานี-บางเลน) ถึงหลักกม.ที่ ๒๑-๒๒ แล้วแยกเข้าวัดไปอีก ๑๐ กม. วัดนี้เป็นแหล่งเก่าแก่ของหอยนางรมยักษ์ มีอายุกว่า ๑,๐๐๐ ปี มีเจดีย์ที่ก่อสร้างขึ้นจากการนำเอา หอยนางรมมาสร้างเป็นรูปเจดีย์ จึงเรียกว่า "เจดีย์หอย" มีอยู่ด้วยกัน ๒ องค์ องค์แรกอยู่ปากทางเข้าวัด องค์ที่สองอยู่ในวัด ใิเวณวัดมีบึงน ภายในบริเวณวัดมีปลาสวายที่ทางวัดเลี้ยงอยู่เป็นจำนวนมาก และบ่อเต่าอยู่ข้างๆบึง นักท่องเที่ยวสามารถซื้ออาหารเลี้ยงปลาและเต่าได้ วัดลำมหาเมฆ ตั้งอยู่ที่ บ้านลำมหาเมฆ หมู่ที่ ๕ ตำบลบ่อเงิน อำเภอลาดหลุมแก้ว ห่างจากจังหวัดตามเส้นทางถนนปทุมธานี-บางเลน ประมาณ ๑๔ กม. อยู่ระหว่างทางไปวัดเจดีย์หอย จะพบทางแยกเลี้ยวซ้ายเข้าวัด ระยะทางจากทางแยกนี้ประมาณ ๑ กม. สิ่งที่น่าสนใจคือ บริเวณบึงน้ำไหลของวัดมีนกหลากหลายชนิด อาศัยสร้างรัง ฟักไข่ตามธรรมชาติจำนวนมาก ได้แก่ นกกระยางขาว นกกระสา นกกาน้ำ และนกชนิดอื่นๆ วัดพืชอุดม วัดพืชอุดม อยู่ที่ตำบลลำไทร อำเภอลำลูกกา ตามเส้นทางปทุมธานี-หนองจอก ระยะทางประมาณ ๕๗ กิโลเมตร ในบริเวณวัดมีศาลารูปปั้น ต่างๆ แสดงถึงสวรรคภูมิ และนรกภูมิ ในอุโบสถมีพระพุทธรูปจำลองหลวงพ่อโสธรประดิษฐานอยู่ นอกจากนั้นยังมีพิพิธภัณฑ์โบราณวัตถุด้วย วัดมูลจินดาราม วัดมูลจินดาราม ตั้งอยู่ริมคลองรังสิตประยูรศักดิ์ บริเวณคลองห้า อำเภอธัญบุรี ห่างจากถนนพหลโยธิน ไปตามเส้นทางถนปทุมธานี-นครนายก ระยะทางประมาณ ๑๓ กิโล เมตร มีสิ่งที่น่าสนใจคือปลาสวายอาศัยอยู่ในคลองรังสิตประยูรศักดิ์ บริเวณหน้าวัดมีขนาดใหญ่ จำนวนมากตัวละ ๓-๕ กิโลกรัม แต่ละวันมีผู้ไปเที่ยวชมและให้อาหารปลาอยู่เสมอ อนุสรณ์สถานแห่งชาติ อนุสรณ์สถานแห่งชาติ ตั้งอยู่ริมถนนวิภาวดีรังสิต เขตอำเภอลำลูกกา อยู่ในความดูแลของกรมยุทธศึกษาทหาร กองบัญชาการทหารสูงสุด ภายในมีการจัดแสดงจิตรกรรมฝาผนัง แสดงเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ของไทย ตั้งแต่สมัยสุโขทัยจนถึง สมัยรัตนโกสินทร์ มีการจำลองเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ภาพจำหลักนูนต่ำแสดงเรื่องการสร้างเมืองและหุ่นจำลองเหตุ การณ์สำคัญ ทางประวัติศาสตร์การสงครามของไทย เปิดให้ชมเฉพาะเป็นหมู่คณะ ในวันและเวลาราชการ

 ดรีมเวิล์ด ดรีมเวิล์ด ตั้งอยู่บริเวณ กม.ที่ ๗ ถนนรังสิต-องครักษ์ อ.ธัญบุรี เป็นสวนสนุกที่มีสิ่งก่อสร้างจำลองดินแดน เทพนิยายและเครื่องเล่น ต่างๆ หลายชนิด เปิดให้เข้าชมทุกวัน วันธรรมดาเวลา ๙.๓๐-๑๗.๐๐ น. วันหยุดเวลา ๙.๓๐-๑๙.๐๐ น. ค่าผ่านประตูผู้ใหญ่ ๙๕ บาท เด็ก ๘๐ บาท สอบถามรายละเอียด เพิ่มเติมที่ โทร. ๕๓๓๑๑๕๒, ๕๓๓๑๔๔๗


 ศูนย์วิปัสสนาธรรมสุขใจ รังสิต (วัดซอยสามัคคี) ใกล้สนามกีฬาธูปเตมีย์ ติดหมู่บ้านวังทองริเวอร์ปาร์ค เป็นวัดประจำหมู่บ้านซอยสามัคคี ตำบลคูคต ตามข้อมูลกรมการปกครองดังนี้.- ตำบลคูคต เป็นตำบลในเขตการปกครองของอำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ประกอบด้วย ๖ หมู่บ้าน คือ บ้านขจรเนติยุตร, บ้านคลอง ๓, บ้านสายไหม, บ้านลำสามแก้ว, บ้านสาดสนุ่น, และบ้านสามัคคี วัดสำคัญประจำตำบล ๑. วัดสายไหม ๒. วัดลาดสนุ่น ๓. วัดซอยสามัคคี (ธรรมสุขใจ) ฯ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น